
ทุกเช้า–เย็น หน้าโรงเรียนและมหาวิทยาลัยคือช่วงเวลาที่รถติดที่สุด ทั้งรถรับ–ส่งนักเรียน รถครู และผู้ปกครองที่แวะมาส่ง หลายแห่งเริ่มหันมาใช้ “ระบบไม้กั้นอัตโนมัติ” เพื่อจัดระเบียบรถและเพิ่มความปลอดภัย ไม่ใช่แค่กันคนแปลกหน้า แต่ยังช่วยให้การบริหารพื้นที่หน้าโรงเรียนง่ายขึ้นกว่าที่เคย
ปัญหาที่โรงเรียนส่วนใหญ่เจอทุกวัน

- รถจอดซ้อนคัน ทำให้รถรับ–ส่งเข้าคิวช้า
- รถภายนอกแอบเข้ามาในเวลาเรียน
- ผู้ปกครองจำนวนมาก ทำให้รปภ.ทำงานลำบาก
- ไม่มีข้อมูลว่าใครเข้ามา–ออกไปบ้าง
ระบบไม้กั้นอัตโนมัติช่วยจัดการทุกอย่างได้ในระบบเดียว ทั้งควบคุมการเข้าออกและเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์
ระบบไม้กั้นแบบไหนเหมาะกับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย

1. ระบบไม้กั้นแบบ LPR (อ่านป้ายทะเบียน)
แค่ขับผ่าน กล้องก็อ่านทะเบียน เปิดไม้กั้นให้อัตโนมัติ ช่วยลดคิวหน้าโรงเรียนและบันทึกข้อมูลได้อัตโนมัติ เหมาะกับโรงเรียนใหญ่ หรือมหาวิทยาลัยที่มีรถเข้าออกเยอะ

2. ระบบไม้กั้นแบบ QR Code / Smart Pass
ผู้ปกครองสามารถรับ QR Code ผ่านแอป ใช้สแกนเข้า–ออกได้โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ ข้อมูลบันทึกลงระบบทันที เหมาะกับโรงเรียนเอกชนหรืออินเตอร์
ระบบไม้กั้นช่วยให้บริหารพื้นที่หน้าโรงเรียนง่ายขึ้น

- จัดโซนรถครู–รถนักเรียน–รถผู้ปกครองแยกกัน
- ลดภาระรปภ. ให้ระบบตรวจสิทธิ์อัตโนมัติแทน
- เก็บข้อมูลเวลาเข้า–ออกไว้ตรวจสอบย้อนหลัง
- เพิ่มภาพลักษณ์ “Smart School / Smart Campus”
ระบบไม้กั้นในมหาวิทยาลัยสามารถเชื่อมข้อมูลนักศึกษาได้
ระบบสามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลนักศึกษา ทำให้ตรวจสอบรถแต่ละคันว่าเป็นของนักศึกษา ครู หรือบุคลากรได้ทันที และสามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าเฉพาะโซนได้ เช่น
- เฉพาะอาจารย์เข้าโซน Faculty Parking
- นักศึกษาเข้าได้เฉพาะลานกลาง
สรุป
ระบบไม้กั้นโรงเรียนและมหาวิทยาลัยไม่ใช่เรื่อง “เกินตัว” อีกต่อไป แต่คือมาตรฐานใหม่ของสถานศึกษายุคใหม่ที่ต้องการความปลอดภัยและความเป็นระเบียบ Dpark พร้อมให้คำปรึกษาและสำรวจหน้างานฟรี รองรับทุกระบบ ทั้ง LPR, DPark Smart Pass และ RFID
